ว่ากันว่าหากเราคาดหวังอะไรไว้สูงมากมักจะผิดหวังเสมอ แต่สำหรับเกมเทพแห่งปีอย่าง metal gear solid v: phantom pain ไม่ว่าใครก็จะอดไม่ได้ที่จะคาดหวังว่ามันจะสนุกสุดยอดสมเป็นผลงานสุดท้ายของ ฮิเดโอะ โคจิม่า ก่อนจะลาออกจากค่ายโคนามิ
และจะว่ากันตรงๆแค่สัมผัสแรกก็ประทับใจแล้ว ด้วยกราฟิกที่สร้างโดย Fox Engine ที่ดูดีไม่ว่าจะเป็นเครื่องเกมที่ตกยุคไปแล้วอย่าง PS3 XB360 หรือของใหม่ทั้ง PS4 และ XbOne ล้วนออกมาดูดีเหมือนกัน มีการเล่นแสงเงา รายละเอียดที่สุดยอดทั้งตัวละครและฉากที่งดงามจนอยากจะหยุดเกมไว้ชื่นชมความสวยงามกันเลยโดยเฉาพะวิวในทะเลทราย
ซึ่งบน PS4 XBOne ทำได้ดีกว่าทั้งรายละเอียดและเฟรมเรตที่จัดเต็มแม้จะมีกระตุกบ้างแต่ก็เล็กน้อย แต่ต้องเข้าใจก่อนว่ามันคือเกมที่สร้างบนสถาปัตยกรรม ที่ต้องรองรับเครื่องรุ่นเก่าด้วยก็อย่าไปคาดหวังว่ามันจะสวยเท่าเกมที่ออกเฉพาะ PS4 เพราะยังไงก็สวยไม่เท่าแต่มันก็ดูดีที่สุดแล้ว ส่วนเสียงประกอบและการนำเสนอยังคงโดนเด่นราวกับได้ชมภาพยนตร์ชั้นดี แถมเสียงพากย์สเนค ได้ดาราดัง “คีเฟอร์ ซัทเธอร์แลนด์” จากซีรีย์ดัง 24 มาให้เสียงยิ่งทำให้เกมดูมีคุณค่าเพิ่มแถมยังทำหน้าดีได้ดีจนลืมเสียงพากย์ของคนเก่าไปเลย
รูปแบบการเล่นจัดว่าเป็นข้อเด่นที่สุด เพราะมันได้พัฒนารูปแบบการเล่นแบบสายลับลอบเร้นให้เล่นได้สนุกไม่เชย ในส่วนแอ็คชั่นทำได้ดีควบคุมก็ง่ายโดยใช้แค่ไม่กี่ปุ่ม ถึงไม่เคยเล่นภาคก่อนหน้านี้ก็เข้าใจง่าย ส่วนระบบอาวุธมีความละเอียดสมจริงจนเกมยิงแท้ๆยังอาย การต่อสู้ระยะประชิดแบบ CQC ปรับให้ง่ายขึ้น มีการนำแนวทางของเกมแนวโลกอิสระที่รับเป็นการรับเป็นภารกิจที่ไม่ยาวนัก และใช้การนำเสนอแบบทีวีซีรีย์จบเป็นตอนๆทำให้ผู้เล่นสนุกไปกับมันได้แต่แม้ภารกิจจะสั้น แต่บอกไว้เลยว่าตัวเกมมีความยาวมากๆแค่จบแบบธรรมดาก็อาจจะใช้เวลามากกว่า 40 ชั่วโมงแล้วเรียกว่าคุ้มค่าสุดๆ
รูปแบบภารกิจจะไม่ซ้ำซากมีอะไรให้ทำหลากหลาย มีฉากที่กว้างมากแต่ก็ไปได้จำกัดไม่ได้มีอิสระเท่าพวก OpenWorld ผู้เล่นต้องฟังและอ่านให้ดีว่าภารกิจต้องให้ทำอะไรเพราะมันไม่ได้มีสัญลักษณ์บอกแบบละเอียดแต่แบบนี้แหละทำให้เกมสนุกเพราะเราต้องทำภาระกิจด้วยการตีความและอ่านจริงๆไม่ใช่เดินไปตามจุดก็ผ่านเหมือนเกมรุ่นใหม่ และมีทั้งการลอบโจมตี ช่วยตัวประกัน ทำลายอาวุธหนักของศัตรู และอีกมากมายจนบรรยายไม่หมด ฉากก็ออกแบบมารองรับกับแนวเกมที่ต้องลอบเร้นได้ดีมีทางเลือกให้เล่นหลากหลายมากเรียกว่าเล่นรอบสองก็ไม่มีเบื่อกัน
และหากคุณต้องการจะลุยหรือขาแอ็คชั่นความจริงหลายครั้งหากโดนศัตรูเจอตัวก็ต้องสู้กันให้ตายไปข้างแต่ด้วยพื้นฐานของเกมสายลับ เราไม่ได้เก่งกาจต้องคอยหลบหลีกและหาทางลอบโจมตีกลับดังนั้นเกมยังคงเป็นแนวสายลับไม่ได้ปรับเปลี่ยนให้ออกนอกเส้นทางให้เสียของ ส่วนสิ่งใหม่ที่ต้องชมคือผู้ช่วยเป็นสัตว์ทั้งน้องหมา ที่มีช่วยเราในการค้นหาศัตรู หรือ ม้าไว้เป็นพาหนะ นอกจากนี้เรายังขโมยรถของศัตรูมาใช้ได้อย่างอิสระ และที่ต้องชมคือการควบคุมบังคับม้า ที่ทำได้ดีเที่ยบเท่าเกมดังอย่าง เซลด้า หรือ Red Dead Redemption
จุดที่โดดเด่นของภาคนี้เป็นการยกมาจาก peace walker คือการสร้างกองทัพและฐานทัพของเราได้ และภาคนี้ทำได้ละเอียดสุดๆไม่ว่าจะเป็นส่วนของกองกำลังเสริม การสร้างอาวุธ และมันจำเป็นอย่างมากในการเล่น เพราะเราจะได้อาวุธและของแจ่มๆจากการสร้างฐานทัพให้มีคนเก่งๆมาทำงานให้ เช่นเมื่อกระสุนหมดก็เรียกให้ฐานส่งกระสุนหรืออาวุธยุทโธปกรณ์มาให้ทางอากาศได้ หรือเจอศัตรูที่ขับรถถังมาก็เรียกพวกมาช่วยยิงถล่มกลางอากาศได้ แต่เราต้องหาบุคลากรแจ่มๆมาช่วยพัฒนาด้วย (ก็จับเอาศัตรู หรือตัวประกันที่เราช่วยมานั้นแหละ) ยิ่งถ้าได้คนเก่งๆมาเยอะก็จะสร้างอาวุธเทพๆไปใช้งานได้
โดยรวมเกมเพลย์ของภาคนี้คือการพัฒนารูปแบบการเล่นที่อาจจะไม่หวือหวา เปลี่ยนให้มีความสดใหม่ของเกมยุคปัจจุบัน ทำให้เล่นได้แบบไม่เชยแถมภารกิจก็หลากหลายและสนุกไม่มีส่วนที่น่าเบื่อเลย เพราะมีการออกแบบด่านมารองรับทำได้ดีเยี่ยมมีอะไรให้สำรวจมากกว่าที่คิด แต่ทุกอย่างยังอยู่ในกรอบของเกม “เมทัลเกีย” ที่คุณคุ้นเคยไม่ได้เปลี่ยนไปจนเสียของเหมือนบางเกม
สรุป metal gear solid v: phantom pain
metal gear solid v: phantom pain แล้วการกลับมาล้างแค้นในเกม Metal Gear Solid 5 The Phantom Pain ถือว่าเป็นความสุดยอดที่ไม่มีที่ติสำหรับเกมแนวสายลับ แต่ถึงจะไม่เคยเล่นแนวนี้มันก็ยังมีความสนุกให้สัมผัสในรูปแบบแอ็คชั่นที่มีอะไรให้ทำมากมายราวกับเป็นเกม OpenWorld เล่นได้นานคุ้มค่า แค่นี้ก็น่าจะพอให้มันเป็นหนึ่งผู้ท้าชิงเกมแห่งปีแล้ว และมันควรจะได้รางวัลไปเลยด้วย และถือเป็นการปิดท้ายการร่วมงานของ โคจิม่า กับ โคนามิ ได้ยิ่งใหญ่สมกับที่รอคอย
จุดเด่น
- เกมเพลย์สนุกลงตัว
- มีอะไรให้ทำเยอะมาก
- ฉากหลากหลาย
- มีความยาวคุ้มค่า
- กราฟิกดูดีทุกเครื่อง
จุดสังเกต
- ไม่มีที่ติ metal gear solid v: phantom pain