หนึ่งในซีรีส์เกมแนววางแผนการรบของ Nintendo แฟนทั่วโลกต้องนึกถึง fire emblem engage ที่วางขายภาคแรกบน Famicom ในปี 1990 และถูกสร้างออกมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงภาคล่าสุด Fire Emblem Engage ที่วางขายบน Nintendo Switch รับปีใหม่ 2023 เพราะเกมออกต้นปีเลย
และการกลับมาของ ซีรีส์วางแผนการรบของปู่นินไม่ธรรมดา เพราะตัวละครหลักก็มาพร้อมสีผมสุดแสบตา และยังมาพร้อมกับรูปแบบใหม่ที่เหมือนเอาใจแฟนเก่าดังเดิม เพราะตัวละครในภาคนี้จะสามารถอัญเชิญร่างของตัวละครในตำนานของซีรีส์ Fire Emblem ออกมาใช้งานได้ ทำให้มันมีความแตกต่างจากภาคก่อน
ก่อนจะเข้าเกมผู้เล่นจะต้องเลือกเพศของตัวละครก่อน ส่วนเนื้อเรื่องในภาค Engage จะเกิดขึ้นในทวีป Elyos ที่ตัวเอกต้องไปรวบรวมเหวน Emblem ที่กระจายอยู่ทั่วทวีป และไปกำจัด Fell Dragon ในส่วนของการเล่าเรื่องทำได้ดี มีบทดราม่าอยู่มากมาย มีการลงทุนทำคัตซีนงาม ๆ ออกมาให้ชมตลอดการเล่นแม้ความหลากหลายของเนื้อเรื่องจะสู้ภาค Three Houses ไม่ได้แต่ก็ยังน่าติดตาม
กราฟิกพอสอบผ่านแต่ดูเชยไปนิด fire emblem engage
ภาพใน fire emblem engage ดูดีในระดับหนึ่ง เพราะว่ามันนำเสนอด้วยกราฟิกแบบเซลเฉดที่จำลองภาพการ์ตูนออกมาได้สมจริง และภาคนี้ถือว่าออกแบบตัวละครได้ดีมีจุดเด่นแตกต่างกัน แถมยังใส่สีสันแบบจัดเต็มกว่าภาคก่อน แต่ยังอยู่ในงานออกแบบเดียวกับภาค Three Houses ทำให้ไม่ได้แปลกใหม่อะไรมากนัก
ที่น่าผิดหวังนิดหน่อยคือรายละเอียดของฉากที่น้อยไป ดูโล่ง ๆ เหมือนเกมยุค PS3 ในปี 2023 ถือว่ามันดูเชยไปและน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ก็เข้าใจได้ว่าทำลง Switch ที่สเปกไม่แรงแต่ก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้สักนิด ยังดีที่เพลงประกอบทำออกมาได้ดีงามตามมาตรฐานซีรีส์ มีการใส่เพลงธีมสนุกเข้ามาในฉากที่เหมาะสม ต่อด้วยเสียงพากย์ที่มีคุณภาพทำให้บทดราม่าสามารถทำให้ผู้เล่นอินกับเรื่องราวที่สุดเข้มข้นได้ไม่ยาก
เกมเพลย์ไม่เปลี่ยนแต่สนุกเหมือนเดิม
ทุกอย่างใน Fire Emblem Engage เหมือนกับภาคก่อนที่เป็นเกมแนววางแผนการรบเทิร์นเบส แบบใส่คำสั่งและเดินคนละตาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ดังนั้นใครเคยเล่นมาก่อนก็สามารถเข้าใจได้ในทันที แม้จะดูเชยแต่เกมเพลย์เต็มไปด้วยความสนุกและรวดเร็วไม่มีการรอโหลดระหว่างการตัดเข้าฉากเลย ทำให้การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว แถมยังกดข้ามได้อีกเรียกว่าทันใจเหมาะกับเกมยุคนี้มาก
ในส่วนของฉากต่อสู้ยังคงเหมือนเดิมที่จะเป็นมุมมองด้านบน แต่จะปรับเปลี่ยนมุมกล้องได้เล็กน้อย ส่วนการเดินจะไม่ได้กำหนดเป็นช่อง ๆ ชัดเจนเราจะบังคับตัวละครเดินได้แค่จำกัดพื้นที่ในการเดินเท่านั้น ในฉากผู้เล่นจะได้ทำภารกิจที่หลากหลาย เช่นการโจมตีศัตรูให้หมดฉากไปจนถึงการช่วยเหลือคน และยังมาพร้อมกับไอเทมที่ซ่อนอยู่ในฉากที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะไปเก็บหรือเดินหน้าทำภารกิจหลักต่อ
ระบบใหม่เรียกตัวละครในตำนาน
ของใหม่ที่เป็นจุดเด่นมากของภาคนี้คือระบบอัญเชิญตัวละครในตำนานของซีรีส์ Fire Emblem มาใช้งานที่จะออกมาเป็นร่างโปร่งแสงเหมือนวิญญาณ ที่จะออกมาช่วยและยังสามารถปรับเอาไปใช้เป็นผู้ช่วยกับทุกตัวละครได้ เพราะตัวละครในตำนานจะอยู่ในแหวน Emblem ที่เมื่อเอาไปใส่จะเรียกมาช่วยสู้ได้
นอกจากช่วยสู้ยังสามารถใช้ท่ารวมร่างหรือที่เรียกว่า Engage เมื่อรวมกันแล้วจะทรงพลังและสามารถใช้ท่าไม้ตายพิเศษได้ แต่มันใช้ได้จำกัดทำให้ต้องคิดให้ดีหากจะใช้ และเมื่อใช้จะมีการเพิ่มเลเวลเพิ่มไม้ตายผสานกับในแต่ละตัวละครมาให้ใช้ ถือว่าเป็นไอเดียที่โดดเด่นแถมยังเอาใจแฟน ๆ เกม Fire Emblem ทุกภาค เพราะมีตัวละครดังอย่าง Marth, Roy, Lyn, Ike รวมทั้งหมด 15 ตัวมาให้เรียกใช้งาน และจะมีมาให้โหลดเพิ่มในอนาคตอีก
กลับมาใช้ระบบคลาสสิกของซีรีส์
ไม่ใช่แต่ใส่ของใหม่มาภาค Engage ยังมีระบบเก่าแก่ของซีรีส์ Fire Emblem ที่นำรูปแบบการแพ้ทางกันของอาวุธ โดยนำสูตรการเป่ายิ้งฉุบมาใช้งาน เช่นดาบเอาชนะขวาน แต่ดาบจะแพ้หอก ทำให้ตอนเล่นต้องเลือกตัวละครไปโจมตีให้ถูกประเภทเพราะหากแพ้ทางกันจะโจมตีได้แรงมาก ตรงกันข้ามหากเราแพ้ทางก็จะโดนอัดปางตายได้เช่นกัน อีกจุดที่เหมือนต้องมีทุกภาคไปแล้วคือระบบสานสัมพันธ์กับตัวละคร ที่จะมีทั้งในสนามรบที่จะมีการร่วมแรงร่วมใจจนเกิดท่าไม้ตายที่โดดเด่นที่ช่วยในการต่อสู้ได้ ส่วนตัวละครในเกมจะมีมากกว่า 30 ตัว ที่จะค่อย ๆ ปลดล็อกออกมาเมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ ซึ่งแต่ละตัวจะมีความโดดเด่นแตกต่างกัน
อีกส่วนที่น่าสนใจคือระบบฐานทัพที่เมื่อผ่านฉากจะมีการกลับไปสู่ฐานที่เต็มไปด้วยกิจกรรมให้ทำมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านค้าไว้ซื้อของ การสร้างไอเทมใหม่รวมทั้งมีจุดที่เปลี่ยนอาชีพได้แถมมีมาให้เลือกหลากหลายคลาสที่ต้องกลับมาอัปเกรดตลอดการเล่น นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถเดินสำรวจฐานของเราได้ตามใจ ในฉากนี้เราสามารถสานสานสัมพันธ์กับตัวละครได้เช่นการทำกิจกรรมร่วมกันและการให้ของขวัญ ซึ่งมันจะส่งผลกับเรื่องราวด้วย
การกลับมาของ Fire Emblem Engage ถือว่ามาเร็วกว่าที่คิดไว้มาก ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีอะไรแปลกใหม่มากนัก แต่พอได้สัมผัสมันมีดีพอตัวที่จะสามารถดึงผู้เล่นให้สนุกไปกับเกมเพลย์เดิม ๆ ที่ใช้มาหลายปีแล้วได้ แม้กราฟิกอาจจะไม่ได้พัฒนาแล้วเพราะ Nintendo Switch คงทำได้แค่นี้แต่โดยรวมถือว่าเป็นหนึ่งในเกมฟอร์มดีที่ออกต้นปี ที่ควรค่าแก่การหามาเล่นอย่างยิ่ง fire emblem engage