เปิดให้ได้เล่นกันสักพักแล้วสำหรับ naraka bladepoint เกมจอมยุทธ์ Battle Royale จากค่าย 24 Entertainment ที่เปิดให้ได้เล่นตัวเต็มกันเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งในวันเปิดเกมก็สามารถทำยอดผู้เล่นติด Top 10 ผู้เล่นมากที่สุดบน Steam ทันที และยังคงมาตราฐานผู้เล่นจากวันแรกอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยมียอดผู้เล่นสูงสุดวันละ 100,000 คน
ในช่วงที่เกมเปิดทดสอบทางเราได้เคยเขียนรีวิวตัวเกมด้าน Gameplay ไปแล้ว (รีวิวช่วง Beta เกม Naraka: Bladepoint ศึกเหล่าจอมยุทธ์ Battle Royale ที่คนให้ความสนใจกันล้นหลาม) ซึ่งตัวเกมถือว่าสอบผ่านเรื่องความสนุกและความแปลกใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม แต่ก็มีประเด็นอื่นๆ เกี่ยวกับระบบเช่นกัน วันนี้เราจะมาพูดถึงประเด็นเหล่านั้นหลังตัวเกมเปิดมาได้สักพักนะครับ
ราคาตัวเกม naraka bladepoint
naraka bladepoint เป็นประเด็นที่ค่อนข้างถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก สำหรับเหล่าผู้เล่นในช่วงเบต้าที่เมื่อทราบว่าเกมจะต้องเสียเงินเล่นก็สร้างความกังวลว่าจะทำให้ยอดผู้เล่นน้อยหรือไม่ แม้ตัวเกมจะราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพของตัวเกม (499 บาท) แต่เมื่อเทียบกับจำนวนผู้เล่นตอนช่วงเบต้าก็ถือว่าตัวเกมปัจจุบันมียอดผู้เล่นน้อยกว่าเล็กน้อย ประมาณ 20,000 – 30,000 คน (อ้างอิงจากยอดผู้เล่นพร้อมกันสูงสุดระหว่างช่วงเบต้ากับปัจจุบัน)
สิ่งที่สร้างความกังวลเล็กน้อยในประเด็นนี้ก็คือ ยอดผู้เล่นใหม่ที่อาจจะไม่ลื่นไหลมากนักเมื่อเทียบกับเกมเปิดฟรี ซึ่งอาจจะส่งผลให้ยอดผู้เล่นในอนาคตน้อยลงกว่าเดิมได้ แต่ถึงกระนั้นด้วยความที่ตัวเกมไม่ได้แพงมาก และก็ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างสมราคา ก็อาจจะต้องรอดูกันว่าในอนาคตตัวเกมจะมีการพัฒนาและความน่าดึงดูดผู้เล่นมากขนาดไหน
ตัวเกมมี Learning Curve ที่สูงมาก
ต้องบอกเลยว่าตัวเกมนี้มีความเป็นเกมแนวไฟท์ติ้งเยอะมากๆ แม้จะมีอาวุธระยะไกลค่อนข้างเยอะ แต่คอร์เกมหลักๆ ก็ยังเน้นการต่อสู้ระยะประชิดอยู่ดี คุณอาจจะสามารถกดมั่วเอาชนะผู้เล่นใหม่หรือบอทได้ในช่วงแรกของเกม แต่หลังจากที่เล่นไปสักพัก การเจอผู้เล่นมากฝีมือจะมีให้เห็นมากขึ้น ตรงจุดนี้อาจจะทำให้ผู้เล่นที่คาดหวังการเล่นแบบสนุกๆ ถอดใจไปก่อนได้ แต่สำหรับใครที่ชอบความท้าทาย ตัวเกมนี้ก็ตอบสนองในจุดนั้นได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว
โหมดที่เยอะจนแบ่งจำนวนผู้เล่น
ในปัจจุบันนี้ตัวเกมจะมีอยู่ทั้งหมด 5 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Rank Trio, Rank Solo, Quick play Trio, Quick play Solo และ The Bloodbath (ยังไม่รวมห้อง Custom ที่ผู้เล่นสามารถสร้างได้อย่างอิสระ) ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้ผู้เล่นในบางโหมดบางช่วงเวลาหาห้องยากเล็กน้อย เช่นโหมด Rank Solo ที่แม้คุณจะเพิ่งเล่นได้ไม่นานและยังมีแรงค์ต่ำอยู่ ก็อาจจะไปเจอผู้เล่นแรงค์สูงสุดในโซนนั้นได้ไม่ยาก
อาการ Lag ที่อาจส่งผลต่อการเล่น
อีกหนึ่งปัญหาที่อาจจะทำให้ผู้เล่นที่เล่นจริงจังแอบเซ็งได้ นั่นก็คือปัญหาแลคภายในเกมที่มีให้เห็นอยู่เนื่องๆ แม้ดูเผินๆ ตัวเกมอาจจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องแลคมากนัก โดยเฉพาะคนที่เน้นเล่นยิงไกลเป็นส่วนใหญ่ แต่หากคุณเล่นสไตล์เน้น Parry อาจจะเจอจังหวะที่ศัตรูปล่อยท่า Focus มาแล้ว Parry ไม่โดนบ่อยครั้ง ทั้งๆ ที่จังหวะก็ตรงทุกอย่าง ซึ่งสาเหตุก็มาจากปัญหาด้าน Network ซึ่งแม้ในจอของคุณจะกดท่า Parry ไปแล้ว แต่ข้อมูลยังส่งไปไม่ถึงของศัตรู ทำให้ Parry ของคุณไม่ติดนี่เอง ซึ่งปัญหานี้มีผลอย่างมากในการเล่นระดับสูง
Cosmetic หลายชิ้นที่ยังต้องใช้เงินจริงซื้ออยู่
อีกหนึ่งประเด็นร้อนที่ผู้เล่นหลายคนแอบรู้สึกไม่พอใจ ที่ตัวเกมแม้จะเป็นเกมเสียเงินก็ตาม แต่ก็ยังมีของตกแต่งหลายชิ้นที่ไม่สามารถเปิดกล่องจากการเล่นปกติได้ และต้องจ่ายด้วยเงินจริงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้เล่นหลายคนอาจจะไม่ชอบในส่วนนี้เท่าไหร่ แต่สุดท้ายแล้วเครื่องประดับเหล่านี้ก็ไม่มีผลกับตัวเกมอยู่ดี ทำให้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เล่นล้วนๆ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นประเด็นอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องของ Gameplay ที่มีทั้งข้อดูและเสียแตกต่างกันไป แต่ทั้งนี้ในเรื่องของเกมเพลย์ก็ถือว่าตัวเกมทำออกมาได้ดีมาก และทำให้ผู้เล่นหลายคนติดหนึบกันไปตามๆ กัน แม้จะยังมีปัญหาเรื่องบัคและบาลานซ์อยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าผู้พัฒนาค่อนข้างแก้ปัญหาได้ไวพอสมควรเลยทีเดียว หากใครที่ชอบเกมสไตล์ Battle Royale และ Fighting เกม naraka bladepoint นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี และมีความแปลกใหม่เป็นสไตล์ของตัวเองมากเช่นกัน